เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อนจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดี บนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา เรียนรู้เพิ่มเติม
5 เคล็ดลับดูแลกระเป๋าแบรนด์เนมแบบฉบับเดียวกับร้านทำสปากระเป๋า

“กระเป๋า” ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไอเท็มประจำตัวสำหรับหนุ่มสาวผู้รักในความหรูหราของแบรนด์เนม ซึ่งหากให้พูดถึงแล้ว นอกจากจะมีราคาสูงลิบที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยล้ำจนสามารถบ่งบอกตัวตนของเจ้าของได้แล้ว รู้หรือไม่ว่า กระเป๋าแบรนด์เนมส่วนใหญ่ยังมีความทนทานต่อการใช้งานที่สูงมาก แต่อายุการใช้งานจะขึ้นอยู่กับการเย็บ คุณภาพหนัง รวมถึงพฤติกรรมในการใช้งานอีกด้วย
ถึงจะขึ้นชื่อว่าของใช้ แต่ยังไงกระเป๋าก็ต้องได้รับการดูแลรักษาเป็นพิเศษ ยิ่งถ้าใครเป็นผู้ที่ชื่นชอบกระเป๋าแบรนด์เนมเป็นชีวิตจิตใจด้วยแล้ว หากกระเป๋าใบโปรดเกิดเป็นรอยและมีคราบสกปรกโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ อาจเกิดความกังวลว่ากระเป๋าใบโปรดจะเสียหายและหมดราคา อีกทั้งยังไม่รู้ว่าจะหาวิธีดูแลกระเป๋าแบรนด์เนมอย่างไร ให้กลับมาดูสวยเหมือนใหม่ดังเดิม เอาเป็นว่าหากใครที่กำลังเจอกับปัญหานี้อยู่ล่ะก็ วันนี้ SF Brandname จะมาบอกเคล็ดลับดูแลกระเป๋าแบรนด์เนม เพื่อให้ดูดี เหมือนใหม่อยู่เสมอ แต่จะเป็นอย่างไรนั้น ตามไปดูกัน!
1. ดูว่าเป็นคราบสกปรกประเภทไหน
วิธีทำความสะอาดกระเป๋าแบรนด์เนมที่มีประสิทธิภาพต้องเริ่มต้นจากการรู้จักประเภทคราบที่ติดอยู่บนกระเป๋าเสียก่อน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว หากเช็ดคราบสกปรกออกทันทีที่เห็น ก็อาจทำให้กระเป๋าไม่เป็นรอยหรือทิ้งคราบเอาไว้ แต่หากไม่ทันระวังตัว คราบต่าง ๆ ก็อาจทำให้กระเป๋าใบโปรดเป็นรอยได้ โดยประเภทของคราบจะแบ่งออกได้ตามนี้
1. คราบสะสมอย่างคราบน้ำหรือคราบเหงื่อ
คราบสกปรกแบบแรกที่น่ากลัวมาสำหรับหนังกระเป๋า คือ คราบน้ำและคราบเหงื่อ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว คราบเหล่านี้จะเป็นคราบที่เกิดจากการใช้งานเป็นเวลานาน หรืออาจเกิดจากการที่ฝนตกใส่กระเป๋า ถ้าหากปล่อยไว้ไม่ทำความสะอาด คราบเหงื่อก็จะกลายเป็นเกลือมากัดที่หูกระเป๋าได้ หรือหากทิ้งไว้นาน ๆ คราบน้ำก็อาจทำให้กระเป๋าใบโปรดด่างได้เช่นกัน
2. คราบสกปรก รอยเปื้อนฝุ่น และรอยดำ
คราบประเภทนี้มักมีลักษณะเป็นรอยดำตามขอบกระเป๋า ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เจ้าของสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ทันที แต่หากปล่อยไว้ คราบต่าง ๆ เหล่านี้ก็จะกินเนื้อหนังกระเป๋าทำให้เกิดรอยด่างได้ ดังนั้น หากเจอเมื่อไหร่ก็ให้รีบเช็ดออกทันที
3. คราบปากกาที่อยู่ในกระเป๋า
คราบปากกาในกระเป๋าถือเป็นคราบปราบเซียนที่ร้านทำสปากระเป๋าหลาย ๆ แห่งมักไม่รับทำ เพราะ ตัวปากกานั้นมีเคมีเป็นของตัวเอง หากใช้เทคนิคการลบหรือมีวิธีทำความสะอาดกระเป๋าแบรนด์เนมที่ไม่ถนอมเนื้อกระเป๋า ก็อาจทำให้กระเป๋าเป็นรอยด่าง และหากกระเป๋ายิ่งเป็นสีแบบพิเศษด้วยแล้วล่ะก็อาจต้องมีการทำสีเพิ่มตามมาด้วย
4. รอยขีดข่วนตามกระเป๋า
รอยขีดข่วนตามตัวและขอบกระเป๋านั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลาย ๆ ปัจจัย เช่น เครื่องประดับไปโดน เกิดอุบัติเหตุจากการใช้งาน เช่น เดินชนสิ่งของ หรือมีคนมาชน เป็นต้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่ หากมีรอยต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้น ถ้าไม่มีเป็นการบาดลึกไปถึงเนื้อหรือหนังของกระเป๋าก็สามารถลบออกได้
2. เลือกวิธีทำความสะอาดให้ถูกกับชนิดหนัง
นอกจากจะทำความเข้าใจประเภทของคราบสกปรกและแนวทางแก้ไขเบื้องต้นหากเกิดคราบแล้ว วิธีดูแลกระเป๋าแบรนด์เนมให้ถูกต้องยังต้องคำนึงถึงประเภทของหนังกระเป๋าที่ใช้ มิเช่นนั้น หากทำความสะอาดผิดวิธี นอกจากคราบจะไม่ออกแล้ว กระเป๋าก็อาจจะเป็นรอยหรือสกปรกมากกว่าเดิมก็เป็นได้ โดย SF Brandname ขอรวบรวมวิธีการดูแลรักษาหนังแต่ละประเภท ดังนี้
1. วิธีดูแลกระเป๋าหนังแกะ
โดยทั่วไปแล้ว กระเป๋าหนังแกะแบรนด์ดัง ๆ อย่าง Chanel หรือ Mulberry นั้นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในเรื่องความพลิ้วไหว เงางาม และความนิ่มของหนัง แต่ถึงจะสวยงามและพิเศษเพียงใด หนังแกะกลับเป็นหนังกระเป๋าที่มีความบอบบางเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าหากเราพบคราบสกปรกตามหนังแกะ สิ่งที่ควรทำ คือ หาผ้าชุดน้ำหมาด ๆ มาเช็ดตามที่เกิดคราบ และเช็ดคราบน้ำออกด้วยผ้าแห้งอีกรอบ ที่สำคัญ หากกระเป๋ามีความชื้นก็ควรผึ่งลมให้แห้งก่อนนำไปเก็บ มิเช่นนั้นอาจทำให้หนังเสื่อมสภาพและเป็นเชื้อราได้ และเมื่อทำความสะอาดทุกคราบเสร็จเรียบร้อย อย่าลืมทาน้ำยาเคลือบหนังและเช็ดออกให้เรียบร้อยก่อนเก็บด้วย
2. วิธีดูแลกระเป๋าหนังแท้
เวลาจับกระเป๋าหนังแท้นั้นจะให้ความรู้สึกที่นิ่มนวลไปพร้อม ๆ กับรู้สึกถึงความทนทานได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งหากพบคราบสกปรกและต้องการทำความสะอาด อย่างแรกที่ SF Brandname อยากให้เจ้าของทุกคนใส่ใจ คือ เรื่องความชื้นและอุณหภูมิ โดยหากต้องการจะจัดเก็บหรือทำความสะอาด ควรเลือกสถานที่ที่ไม่ร้อนหรือชื้นเกินไปเพื่อป้องกันไม่ให้หนังเสื่อมสภาพได้ จากนั้น หากต้องการทำความสะอาด เจ้าของกระเป๋าสามารถใช้ผ้าหมาด ๆ ชุบน้ำนิดหน่อยมาเช็ดคราบต่าง ๆ ออกได้ และรีบใช้ผ้าแห้งเช็ดให้แห้งที่สุด แต่ที่สำคัญ! กระเป๋าหนังนั้นดูดสีและคราบสกปรกได้ง่าย ดังนั้น ต้องรีบทำความสะอาดทันทีหลังพบคราบ หรือหลังใช้งานเสร็จ
3. วิธีดูแลกระเป๋าหนังสังเคราะห์
กระเป๋าหนังสังเคราะห์นั้นมีวิธีการดูแลและทำความสะอาดที่ไม่ยุ่งยาก แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะสามารถนำกระเป๋าไปแช่น้ำได้เลย ซึ่งหากพบคราบสกปรกเมื่อไหร่ เจ้าของสามารถใช้ผ้าหมาดมาเช็ดคราบออก จากนั้นนำไปตากแดดอ่อน ๆ เพื่อให้กระเป๋าแห้งได้
4. วิธีดูแลกระเป๋าหนังแก้ว
กระเป๋าหนังแก้ว ถือว่าเป็นหนังอีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีความมันวาวแล้ว กระเป๋าหนังแก้วยังสามารถช่วยปรับลุคของเจ้าของให้ดูหรูหราและพรีเมียมได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่ต้องระวังสำหรับการใช้กระเป๋าหนังแก้ว คือ หนังประเภทนี้นั้นดูดติดสีได้ง่ายกว่าหนังประเภทอื่น ๆ ดังนั้น วิธีป้องกันกระเป๋าดูดสีที่ดีที่สุด คือ หากพบคราบหรือรอยสกปรก ต้องใช้น้ำเปล่าทำความสะอาดทันที และถ้าหากน้ำเปล่าใช้ไม่ได้ผล เจ้าของสามารถค่อย ๆ พรมน้ำยาเช็ดกระจกและเช็ดคราบต่าง ๆ ออกได้ทันที แต่ถ้าเช็ดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องหาผ้าแห้ง มาเช็ดให้แห้งสนิทเพื่อป้องกันคราบน้ำอีกรอบหนึ่งด้วย
5. วิธีดูแลกระเป๋าหนังกลับ
หากหนุ่มสาวคนไหนชื่นชอบกระเป๋าหนังกลับเป็นชีวิตจิตใจ ควรจะต้องระวังคราบน้ำและรอยด่างบนตัวหนังให้ดี เพราะหนังประเภทนี้ สามารถดูดน้ำและดูดสีได้ดี ดังนั้นวิธีป้องกันกระเป๋าดูดสีและคราบต่าง ๆ คือ การใช้น้ำยาเช็ดหนังกลับทำความสะอาด จากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดให้แห้งสนิทเพื่อป้องกันการเกิดคราบสกปรกฝังแน่น
3. รักษาทรงกระเป๋าอยู่เสมอ
เมื่อทำความสะอาดอย่างถูกต้องแล้ว วิธีเก็บรักษากระเป๋าแบรนด์เนมในขณะที่ไม่ได้ใช้งานก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้น หากไม่อยากให้กระเป๋าเสียทรงและสามารถใช้งานได้เหมือนเพิ่งซื้อมาใหม่ ๆ ควรหาของนิ่ม ๆ อย่างฟองน้ำ ผ้า หรือกระดาษมาใส่ในกระเป๋าให้เต็มเพื่อช่วยลดรอยยับต่าง ๆ ที่อาจทำให้หนังเสียรูป รวมถึงยังช่วยลดปัญหากระเป๋าแฟ่บ และไม่คืนรูปเมื่อใช้ไปนาน ๆ อีกด้วย
4. หากใส่ตู้ ให้วางเว้นระยะห่าง และอย่าลืมใส่ถุงกระเป๋าทุกครั้ง
แต่ก่อนที่จะพากระเป๋าใบโปรดไปเก็บในตู้ อีกหนึ่งวิธีเก็บกระเป๋าแบรนด์เนมที่จะช่วยรักษาสภาพตัวหนังและรูปทรงให้อยู่คู่กับเราไปได้นาน ๆ คือ การเก็บกระเป๋าใส่ในถุงกระเป๋าที่ทางแบรนด์แถมมา และวางกระเป๋าบนชั้นให้มีระยะห่างแบบที่กระเป๋าจะไม่เกยกัน อีกทั้งยังต้องใส่ซองกันความชื้นในกระเป๋าทุกครั้งก่อนจัดเก็บ ซึ่งวิธีต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยให้กระเป๋าที่มีวัสดุต่างสี สีไม่ตกใส่กัน และที่สำคัญ เจ้าของควรจัดเก็บกระเป๋าในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวกเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราและความอับชื้น
5. ดูแลครบจบในขั้นตอนเดียวด้วยสปากระเป๋า
แต่หากเจ้าของคนไหนไม่ต้องการให้กระเป๋าดูเสื่อมสภาพไว แต่ไม่มีเวลาดูแลแบบครบวงจร หรือหากตอนนี้กระเป๋าใบโปรดเริ่มเสื่อมสภาพและต้องการซ่อมแซม การทำสปากระเป๋าก็เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับดูแลกระเป๋าแบรนด์เนมที่ไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดเวลาแล้ว คราบฝังแน่นบางคราบที่ลบออกเองไม่ได้ก็จะได้รับการดูแลแก้ไข อีกทั้งยังได้ซ่อมแซมและดูแลกระเป๋าให้สวยเหมือนใหม่ได้โดยไม่ต้องเหนื่อยและต้องกังวลว่ากระเป๋าจะเสียหายหรือไม่
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 เคล็ดลับดูแลกระเป๋าแบรนด์เนมที่ SF Brandname นำมาฝากในวันนี้ ทำตามง่าย ๆ แถมยังช่วยให้กระเป๋าดูสวยและสะอาดเหมือนใหม่ได้เลยใช่ไหมล่ะ แต่ถ้าหากใครเจอคราบฝังแน่นที่ลบไม่ออก หรือเจอกับปัญหากระเป๋าเป็นรอยแถมทำสียาก ถ้าหากใครกำลังเจอปัญหาเหล่านี้และอยากหาสถานที่รับทำสปากระเป๋าดี ๆ พร้อมช่วยสอนวิธีดูแลกระเป๋าแบรนด์เนมอย่างถูกต้อง SF Brandname พร้อมให้คำปรึกษาและบริการทุกขั้นตอน มั่นใจได้ว่าทุกคราบรอยเปื้อน ทุกความเสียหายจะได้รับการดูแลโดยมืออาชีพ สามารถติดต่อสอบถามเพื่อทำสปากระเป๋าได้ที่
- Facebook: sfbrandname
- Line: @sfbrandnamebkk
- โทร 08-2676-9094
- หากต้องการให้ทางร้านประเมินการทำความสะอาด หรือปรึกษาปัญหาคราบต่างๆ โดยผู้เชี่ยวชาญ สามารถนำกระเป๋าใบโปรดมาให้ผู้เชี่ยวชาญของเราดูที่ SF Brandname ในห้าง 101 True Digital Park อยู่ติดกับ BTS สถานีปุณณวิถีได้ทุกเวลาทำการ
