เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อนจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดี บนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา เรียนรู้เพิ่มเติม
4 วิธีเลือกกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง ให้เหมาะกับสไตล์คุณ

4 วิธีเลือกกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง ให้เหมาะกับสไตล์คุณ การเลือก กระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง ไม่ใช่แค่เรื่องของราคา แต่ยังเป็นเรื่องของ สไตล์และความคุ้มค่า ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณ กระเป๋าที่ใช่ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมลุคให้โดดเด่น แต่ยังเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาด หากคุณกำลังมองหากระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่ ทั้งสวย ตรงสไตล์ และคุ้มค่าเงิน SF Brandname มี 4 เคล็ดลับสำคัญ ที่ช่วยให้คุณเลือกกระเป๋าได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์ ฟังก์ชัน หรือมูลค่าขายต่อ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
Tips for Choosing a Handbag : เคล็ดลับในการเลือกซื้อกระเป๋า
ความต้องการในไลฟ์สไตล์ของคุณจะส่งผลต่อกระเป๋าถือที่คุณตัดสินใจซื้อ สำหรับผู้ที่ต้องพกพาสิ่งของเยอะและมีขนาดใหญ่สำหรับการทำงานหรือการเดินทาง กระเป๋า Tote ใบใหญ่จะเหมาะที่สุด ในทางกลับกัน บางคนอาจไม่จำเป็นต้องพกอะไรมากมาย ตัวเลือกกระเป๋าคลัตช์ใบเล็กหรือแม้แต่กระเป๋าสะพายไหล่ใบเล็กอาจเหมาะสมกว่า ไม่ว่ากิจวัตรประจำวันของคุณจะเป็นอย่างไร เราก็ได้รวบรวมเคล็ดลับการเลือกกระเป๋าให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ เพื่ออให้คุณพิจารณาก่อนการตัดสินใจเป็นเจ้าของลูกรักใบใหม่ของคุณ
1. Consider Comfort : คำนึงถึงความสบาย
ไม่ว่าคุณจะมีไลฟ์สไตล์แบบใด สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาเมื่อคิดจะซื้อกระเป๋าคือ กระเป๋ามีความเหมาะสมกับรูปร่างของคุณหรือไม่ เมื่อคุณเลือกกระเป๋าที่เหมาะสมกับคุณ มันก็จะเป็นธรรมชาติและสง่างามมากขึ้น ทำให้คุณดูมีระดับ ดูเป็นมืออาชีพ และมั่นใจมากขึ้น ควรเลือกขนาดและฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ เช่น ถ้าใช้ในชีวิตประจำวัน ควรเลือกกระเป๋าที่จุของได้ดีแต่มีน้ำหนักเบา เช่น Goyard St. Louis Tote หรือกระเป๋าสำหรับออกงาน ให้เลือกใบที่หรูหราและกะทัดรัด อย่าง Gucci Marmont Mini เป็นต้น
ความสบายไม่ได้หมายความเพียงแค่ว่ากระเป๋าถือจะอยู่บนไหล่หรือแขนของคุณเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความสามารถในการหยิบสิ่งของจำเป็นของคุณได้ง่ายอีกด้วย หากคุณพบว่าตัวเองต้องรื้อค้นสิ่งของในกระเป๋าทุกครั้งที่ต้องการหยิบอะไรสักอย่าง นั่นอาจหมายถึงกระเป๋าใบนั้นยังไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ น้ำหนักของกระเป๋าถือยังมีบทบาทสำคัญต่อความสบายโดยรวมอีกด้วย กระเป๋าที่มีน้ำหนักมากเกินไปจะไม่เพียงทำให้คุณปวดหลังและไหล่เท่านั้น แต่ยังดูเทอะทะและใส่ของมากเกินไปอีกด้วย ซึ่งอาจทำให้บุคลิกภาพของคุณดูไม่เป็นธรรมชาติและอาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บทางร่างกายอีกด้วย
2. Consider Versatility : พิจารณาถึงความหลากหลายในการใช้งาน
ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการต้องย้ายสิ่งของไปมาระหว่างกระเป๋าถือใบหนึ่ง เพราะกระเป๋าถือใบหนึ่งของคุณไม่เหมาะกับการออกไปข้างนอกในตอนกลางคืน และกระเป๋าอีกใบของคุณก็เล็กเกินไปที่จะใส่สิ่งของจำเป็นทั้งหมดของคุณสำหรับวันทำงาน
ถ้าคุณเป็นสายมินิมอล ควรเลือกกระเป๋าโทนสีเรียบ ดีไซน์คลาสสิก เช่น Chanel Classic Flap หรือ Louis Vuitton Neverfull แต่ถ้าคุณเป็นสายแฟชั่น ต้องการความโดดเด่น ลองเลือกกระเป๋ารุ่นลิมิเต็ด หรือดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใคร เช่น Dior Saddle Bag เป็นต้น ซึ่งกระเป๋าเหล่านี้ สามารถเป็นกระเป๋าที่ใช้งานได้ทุกโอกาส ตั้งแต่งานกลางวัน ออกเที่ยวในวันสบาย ๆ หรืองานหรูหรา ท่องราตรีในยามค่ำคืน
แม้ว่าเราจะไม่ได้หมายความว่ากระเป๋าใบเดียวเหมาะกับทุกคน แต่คุณควรพิจารณาว่าจะใช้งานกระเป๋าถือใบนี้อย่างไรเป็นหลัก กระเป๋าถือใบนี้จะเป็นเพื่อนคู่ใจของคุณในทุก ๆ วัน โดยสามารถรองรับสิ่งของที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของคุณทั้งหมดได้อย่างครบถ้วนหรือไม่ ไม่ว่าจะอย่างไร กระเป๋าถือที่ดีที่สุดไม่ว่าจะใช้งานหลักอะไรก็ตาม ควรมีความอเนกประสงค์ในระดับหนึ่ง ดังนั้นแม้ว่าจะไม่เข้ากับชุดของคุณทั้งหมด แต่ก็ควรใช้งานได้ง่ายในทุกอารมณ์และทุกโอกาส โดยตัวอย่างกระเป๋าแบบต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมมีดังนี้
- Shoulder Bag หรือกระเป๋าสะพายไหล่ ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี กระเป๋าสะพายไหล่สามารถมีขนาดแตกต่างกันได้ แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีขนาดใหญ่พอที่จะใส่ของจำเป็นและอื่น ๆ อีกเล็กน้อย ซึ่งทำให้กระเป๋าสไตล์นี้ มีความทันสมัย น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย และใช้งานได้จริง สามารถใช้งานได้ทุกโอกาส หากคุณต้องการความหลากหลายมากขึ้น คำแนะนำจากเราคือให้เลือกสีกลาง ๆ ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามฤดูกาลและโอกาสต่าง ๆ ควรหลีกเลี่บงสีฉูดฉาด
- Crossbody หรือกระเป๋าสะพายข้าง โดยทั่วไปกระเป๋าประเภทนี้จะมีขนาดเล็กกว่ากระเป๋าสะพายไหล่ แต่ยังคงให้คุณถือของได้สะดวก ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเมื่อเดินทางหรือไปทำธุระ และยังคงมีขนาดใหญ่พอที่จะใส่สิ่งของจำเป็นทั้งหมดและอื่น ๆ อีกมาก
- Satchel โดยทั่วไปจะมีขนาดกลาง ออกแบบมาเพื่อให้ถือได้โดยใช้หูหิ้วสั้นหนึ่งหรือสองข้าง กระเป๋าถือมักจะมีขนาดใหญ่พอที่จะใส่ของต่าง ๆ เช่น แล็ปท็อปและนิตยสาร และเข้ากันได้ดีกับชุดทำงานหรือแม้กระทั่งวันสบาย ๆ
- Tote Bag กระเป๋ายอดนิยมสำหรับสายแบก โดยทั่วไปจะเป็นกระเป๋าขนาดใหญ่ที่มีช่องเดียว อาจมีช่องเปิดกว้างไม่มีตัวล็อกหรือตัวปิด หรืออาจมีซิป หรือตัวล็อคสำหรับเปิดปิด ซึ่งแล้วแต่ดีไซน์การออกแบบของแต่ละแบรนด์ โดยส่วนใหญ่ Tote Bag จะถูกออกแบบมาให้มีความแข็งแรง สามารถรับน้ำหนักได้มาก ในขณะที่ยังคงความยืดหยุ่นด้วยวัสดุหนัง ผ้าใบ หรือไนลอน นอกจากนี้ยังเหมาะกับทุกโอกาสการใช้งานอีกด้วย
- Clutch โดยส่วนมากอาจมองว่า กระเป๋าคลัตช์ เป็นกระเป๋าที่เหมาะสำหรับงานกลางคืน หรืองานสังคมมากกว่านำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน แต่ปัจจุบันกระเป๋าคลัตช์ได้รับความนิยมมากขึ้นเนื่องจากมีความอเนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับที่ยอดเยี่ยมสำหรับคืนเดท งานพิเศษ หรือแม้แต่วันสบาย ๆ ธรรมดาที่ต้องการพักผ่อนเบา ๆ ใช้งานได้จริงอย่างเหลือเชื่อ และมีความยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ในแบบที่ไม่พบในกระเป๋าถือแบบอื่น
- Backpack Purse กระเป๋าเป้ ซึ่งปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่แค่กระเป๋าที่ใช้สำหรับไปทำงาน ไปเรียน หรือท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นสัญลักษณ์แฟชั่น ที่ได้รับการตกแต่งให้เข้ากับยุคสมัย และไม่ลืมประโยชน์ใช้สอยที่ใช้งานได้จริงควบคู่ไปด้วย กระเป๋าเหล่านี้มีความยืดหยุ่นสูงและทำให้ผู้สวมใส่มีโอกาสพกพาสิ่งของที่ใหญ่และเทอะทะได้ง่าย ภายใต้สไตล์ที่ทันสมัย
- Wristlet กระเป๋าข้อมือขนาดเล็ก ซึ่งเป็นกระเป๋ายอดนิยมในสังคมแฟชั่นมินิมัลในปัจจุบัน นี้เหมาะที่สุดสำหรับผู้ที่ชอบความเรียบง่าย มีขนาดเล็กและมีขนาดที่เหมาะสำหรับการใส่บัตรเครดิต บัตรประจำตัว ลิปสติก และกุญแจ ในยุคปัจจุบัน กระเป๋าคล้องข้อมือบางรุ่นยังออกแบบมาให้มีกระเป๋าพิเศษสำหรับใส่สมาร์ทโฟนอีกด้วย กระเป๋าคล้องข้อมือสามารถคล้องรอบข้อมือได้อย่างง่ายดายตามชื่อ ทำให้เป็นกระเป๋าคู่ใจสำหรับกิจกรรมเกือบทุกประเภท
3. How to Spot a Low Quality Handbag : วิธีสังเกตกระเป๋าที่มีคุณภาพต่ำ
สัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกว่ากระเป๋าถือมีคุณภาพต่ำหรือทนทานต่ำ ได้แก่
- กระเป๋าทำจากวัสดุคุณภาพต่ำ เมื่อกระเป๋าทำด้วยหนัง กระเป๋าจะให้ความรู้สึกนุ่มและหรูหรา ไม่เหมือนวัสดุอื่นๆ ในขณะที่กระเป๋าที่ไม่ใช่หนังที่ทำจากพลาสติก มักจะให้ความรู้สึกแข็งกว่าและดูเป็นมันเงา
- สายสะพายของกระเป๋ามีคุณภาพไม่ดีและปรับไม่ได้
นอกจากสัญญาณเหล่านี้แล้ว เราขอแนะนำให้คุณตรวจสอบกระเป๋าถือของคุณในเรื่องต่อไปนี้
- การเย็บและการเย็บตะเข็บที่สม่ำเสมอและไม่มีรอยขาด
- ซิปและอุปกรณ์คุณภาพสูงที่ใช้งานได้สะดวกและไม่สะดุด ซิปควรเคลื่อนไหวได้ง่ายและตัวล็อกควรเปิดและปิดได้อย่างเรียบร้อย
กระเป๋าถือของคุณคือการลงทุนและควรเป็นแหล่งแห่งความสุขสำหรับคุณ การลงทุนในกระเป๋าที่มีคุณภาพสูงสุดตั้งแต่แรกจะทำให้การซื้อของคุณมีอายุการใช้งานยาวนานหลายปี ก่อนการซื้อกระเป๋า ควรตรวจสอบสภาพของกระเป๋าให้ถี่ถ้วน ตรวจสอบสภาพภายนอก ภายใน ซิป รอยขีดข่วน และตำหนิต่าง ๆ อุปกรณ์เสริม เช่น กล่อง ถุงผ้า การ์ดรับประกัน และใบเสร็จ จะช่วยเพิ่มมูลค่ากระเป๋าในอนาคต
4. Value in Resale Market : มูลค่าขายต่อและความนิยมในตลาด
การเลือกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง ไม่ใช่แค่เลือกเพราะความสวยหรือความชอบเท่านั้น แต่หากคุณต้องการความคุ้มค่าในระยะยาว ควรพิจารณา "มูลค่าขายต่อ" เพราะบางรุ่นสามารถเพิ่มมูลค่าได้เมื่อเวลาผ่านไป หรือขายต่อได้ง่ายโดยที่ราคาตกไม่มาก โดยเรามีคำแนะนำดังต่อไปนี้
- เลือกแบรนด์และรุ่นที่มีความต้องการสูงในตลาด เช่นกระเป๋าจากแบรนด์ Hermès, Chanel และ Louis Vuitton มักมีราคาขายต่อดี เพราะเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมต่อเนื่อง หรือกระเป๋ารุ่นที่ขายดีตลอดกาล เช่น Chanel Classic Flap, Hermès Birkin/Kelly และ Louis Vuitton Neverfull เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยในการลงทุน เป็นต้น
- กระเป๋ารุ่นลิมิเต็ดหรือหายากมักมีราคาสูงขึ้น กระเป๋าที่ผลิตจำนวนจำกัด หรือออกแบบพิเศษสำหรับบางคอลเลกชัน เช่น Louis Vuitton x Supreme หรือ Dior x RIMOWA มักมีราคาพุ่งสูงเมื่อเวลาผ่านไป การเลือกซื้อกระเป๋ารุ่นลิมิเต็ดที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ อาจช่วยให้คุณขายต่อได้ในราคาดีเมื่อหมดตลาด
- เลือกสีและวัสดุที่ได้รับความนิยม กระเป๋าสีเบสิก เช่น ดำ น้ำตาล ครีม และเบจ มักเป็นที่ต้องการสูงและขายต่อได้ง่ายกว่าสีแฟชั่นที่เป็นเทรนด์ช่วงสั้น ๆ วัสดุยอดนิยม เช่น หนังแท้ (Caviar, Epsom, Togo) ทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าผ้าแคนวาสหรือหนังกลับ
- สภาพกระเป๋ามีผลต่อราคาขายต่อ ควรเลือกกระเป๋ามือสองที่ยังอยู่ใน สภาพดีเยี่ยม (Like New) หรือ สภาพดี (Excellent Condition) เพราะจะมีมูลค่าขายต่อสูง การเก็บรักษาให้อยู่ในสภาพดี เช่น ใช้ถุงกันชื้น เก็บไว้ในถุงผ้า และหลีกเลี่ยงความชื้น จะช่วยรักษามูลค่ากระเป๋าในระยะยาว
- เลือกซื้อจากร้านที่มีความน่าเชื่อถือ ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระเป๋าที่ซื้อเป็นของแท้และมาจากร้านค้าที่มีการรับรอง เช่น SF Brandname ซึ่งมีการตรวจสอบความแท้ 100% การมี ใบเสร็จ การ์ดรับประกัน กล่อง และอุปกรณ์ครบ จะช่วยเพิ่มมูลค่าขายต่อให้กับกระเป๋า อย่างเช่น SF Brandname
การเลือก กระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง ให้เหมาะกับตัวเองไม่ใช่แค่เรื่องของดีไซน์ แต่ต้องพิจารณาทั้ง ไลฟ์สไตล์ ฟังก์ชันการใช้งาน และมูลค่าขายต่อ เพื่อให้ได้กระเป๋าที่สวย คุ้มค่า และตอบโจทย์ที่สุด หากคุณเลือกกระเป๋าที่เหมาะกับสไตล์ของตัวเอง ดูแลรักษาให้ดี และเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น SF Brandname คุณก็จะได้กระเป๋าที่ไม่เพียงแต่เสริมลุคให้ดูดี แต่ยังเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดอีกด้วย พร้อมเป็นเจ้าของกระเป๋าแบรนด์เนมใบที่ใช่สำหรับคุณหรือยัง
คุณสามารถพบกับสินค้าแบรนด์เนมอื่น ๆ มากมายหลายแบรนด์ หลายรายการ ทั้งเครื่องประดับ กระเป๋า รองเท้า หมวก รวมถึงเครื่องแต่งกายต่าง ๆ ที่พร้อมให้บริการคุณ ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญและมากด้วยประสบการณ์ของเรา และการรับประกัน การันตีการเป็นสินค้าของแท้ 100% หากคุณสนใจสินค้าชนิดใดเป็นพิเศษ สามารถทักเข้ามาพูดคุย รวมถึงสามารถติดตามเราได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
Facebook : sfbrandname
IG : sfbrandname
Line : @sfbrandnamebkk
