เปิดกรุ 5 สี Hermès Kelly และ Hermès Birkin ที่ขายดีที่สุดตลอดกาล

เปิดกรุ 5 สี Hermès Kelly และ Hermès Birkin ที่ขายดีที่สุดตลอดกาล Hermes เป็นไอเท่มสุดหรู ที่ได้รับความนิยมจากนักสะสมทั่วโลก หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้แต่ละใบมีมูลค่าสูง คือ สี ซึ่งมีให้เลือกมากมาย สีของกระเป๋า Hermès ทั้งหมดจะระบุด้วยชื่อเฉพาะและรหัสตัวเลข/ตัวอักษร สหรัฐอเมริกาและยุโรปจะเรียกสีเหล่านี้ตามชื่อ ในขณะที่บางส่วนของเอเชียมักใช้รหัสสีแทน มาสำรวจสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและดูว่าสีเหล่านี้ยังคงครองอันดับหนึ่งในตลาดแบรนด์เนมมือสองได้อย่างไร

 

Which Hermès Colors Would Add the Most Value to Your Collection?

สีของกระเป๋า อาจสะท้อนถึงบุคลิกภาพของคุณ และสามารถส่งผลต่อการรับรู้ของผู้อื่นที่มีต่อสไตล์และความรู้สึกของคุณ สีที่สดใส เช่น สีชมพู สีแดง สีน้ำเงิน หรือสีเขียว จะทำให้คุณรู้สึกมีชีวิตชีวา มีพลัง และมีพลัง ในขณะที่สีกลางแบบคลาสสิก เช่น สีดำ สีทอง หรือสีเทา จะทำให้คุณดูสง่างามอย่างเรียบง่าย แสดงออกได้ถึงความหรูหรามีระดับ

แม้ว่าความชอบในสีจะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่สีและสไตล์บางสี ก็เป็นที่ต้องการมากกว่า ในเรื่องของมูลค่าการขายต่อ ซึ่งสีของกระเป๋า Birkin, Kelly หรือ Constance ของคุณเป็นองค์ประกอบสำคัญในการกำหนดมูลค่า สีประจำฤดูกาลหรือ Seasonal และสีคลาสสิกบางสีไม่ได้มีวางจำหน่ายเสมอไป และเป็นสี Limited ซึ่งมีจำหน่ายตามฤดูกาลเท่านั้น และนั่นคือความหายาก และเป็นการเพิ่มเสน่ห์ในการได้เป็นเจ้าของกระเป๋า Hermès มากขึ้นไปอีก ต่อจากนี้คือสีคลาสสิกที่มีมูลค่าในตลาดมือสองสูงสุด

1. Gold

 

สีทองน้ำตาลอ่อนสุดคลาสสิกที่เข้ากับทุกลุค ดูหรูหราและอบอุ่น เป็นหนึ่งในสีที่ขายดีที่สุดของ Hermès สีทอง กลายเป็นสีคลาสสิกที่ได้รับความนิยมและต้องการมากที่สุด โทนสีแทนที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับการได้ครอบครองอานม้าแสนสวย อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เปล่งประกายสดใส ทั้งบนหนัง Togo และ Epsom โทนสีอบอุ่นนี้เข้ากันได้ดีในทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะอากาศหนาวหรืออุ่น และเข้ากันได้กับเสื้อผ้าส่วนใหญ่ ถือเป็นอัญมณีอันมีค่าของแบรนด์ และสามารถขายต่อในตลาดมือสองในราคาสูงสุดกว่าสีอื่นเสมอ

 

 

 

ประเภทของหนังสี Gold ที่ได้รับความนิยมในกระเป๋า Hermès

1. Togo – หนังลูกวัวลายนูนเล็ก ๆ ให้สัมผัสที่นุ่มและมีความทนทานสูง นิยมใช้ในรุ่น Birkin, Kelly, และ Evelyne ทำให้สี Gold ดูมีมิติและคงทนต่อรอยขีดข่วน

2. Clemence – หนังลูกวัวที่มีความนิ่มและหย่อนตัวมากกว่า Togo สี Gold บน Clemence จะดูอบอุ่นและซึมซับแสงได้ดี ทำให้ดูมีความลึกและมิติที่สวยงาม

3. Epsom – หนังที่ผ่านกระบวนการอัดลายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและคงรูปได้ดี สี Gold ในหนัง Epsom จะให้ลุคที่ดูเรียบหรูและเงางามกว่าหนังแบบอื่น เหมาะกับกระเป๋าโครงสร้างแข็ง เช่น Kelly Sellier และ Constance

4. Swift – หนังที่มีพื้นผิวเรียบและนุ่ม สี Gold ในหนัง Swift จะให้เอฟเฟกต์ที่ดูเนียนละเอียดและสะท้อนแสงสวยงาม แต่ต้องดูแลเป็นพิเศษเพราะเป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย

5. Chevre (Goatskin) – หนังแพะที่มีความเบาและคงทนสูง สี Gold ในหนัง Chevre จะมีความเงาและดูหรูหรามากกว่าหนังวัว ให้ลุคที่ดูแพงขึ้นไปอีกระดับ

6. Box Calf – หนังลูกวัวผิวเรียบที่มีความเงาเล็กน้อย ให้ความรู้สึกหรูหราและเป็นทางการ สี Gold ในหนังประเภทนี้จะดูสง่างาม และมีความเงาวาวเป็นพิเศษ

7. Barenia – หนังลูกวัวที่เป็นไอคอนิกของ Hermès สี Gold บน Barenia จะให้ความรู้สึกเรียบหรู คล้ายเครื่องหนังระดับไฮเอนด์ และเมื่อใช้งานไปนาน ๆ จะเกิด Patina หรือสีที่เข้มขึ้นตามกาลเวลา ทำให้ดูวินเทจและมีเสน่ห์เฉพาะตัว

8. Alligator / Crocodile – หนังจระเข้หรูหราที่มีทั้งแบบเงา (Shiny) และด้าน (Matte) สี Gold ในหนังประเภทนี้จะให้ลุคที่ดูหรูหราและเป็นที่ต้องการในตลาดนักสะสม

เหตุผลที่สี Gold ของ Hermès ได้รับความนิยม

✅ คลาสสิกและเหนือกาลเวลา – เป็นสีที่ใช้งานได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นยุคไหน
✅ เข้าได้กับทุกสไตล์ – ใส่กับลุคทางการก็หรูหรา ใส่กับลุคแคชชวลก็ดูชิค
✅ มูลค่าการลงทุนสูง – สี Gold เป็นหนึ่งในสีที่ ขายดี และ มีมูลค่ารีเซลสูง ในตลาดแบรนด์เนมมือสอง
✅ ดูแลง่ายและใช้งานได้จริง – สี Gold สามารถพรางรอยขีดข่วนได้ดี (โดยเฉพาะในหนังที่มีเท็กซ์เจอร์อย่าง Togo หรือ Clemence)

 

2. Noir/Black

 

 

 

สีดำสุดไอคอนิกที่ไม่เคยตกยุค ให้ลุคหรูหรา สง่างาม และสามารถใช้งานได้ในทุกโอกาส เมื่อจับคู่กับฮาร์ดแวร์สีทองหรือแพลเลเดียม จะทำให้หนังสีนี้ โดดเด่นขึ้นกว่าสีอื่น ๆ อย่างแน่นอน เป็นสีที่ดูแลรักษาง่ายที่สุด อีกทั้งยังได้รับความนิยมอย่างสูง มูลค่าขายต่อในตลาดซื้อขายแบรนด์เนมมือสองจึงสูงเป็นอันดับสอง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพของกระเป๋าด้วย

 

 

Black (Noir) เป็นหนึ่งใน สีที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาล ของ Hermès เพราะเป็นสีที่ให้ความหรูหรา สง่างาม และสามารถเข้ากับทุกสไตล์การแต่งตัว ใช้ได้ทั้งในชีวิตประจำวันและโอกาสพิเศษ นอกจากนี้ยังเป็นสีที่ช่วยให้กระเป๋ามี มูลค่ารีเซลสูง เนื่องจากเป็นสีคลาสสิกที่ไม่เคยตกเทรนด์

ประเภทของหนังสี Black ที่ได้รับความนิยมในกระเป๋า Hermès

1. Togo – หนังลูกวัวที่มีพื้นผิวลายนูนเล็กน้อย น้ำหนักเบา และทนทาน สามารถกันรอยขีดข่วนได้ดี นิยมใช้ในกระเป๋ารุ่น Birkin และ Kelly

2. Clemence – หนังลูกวัวเช่นเดียวกับ Togo แต่มีลวดลายที่ละเอียดและนิ่มกว่าทำให้ดูมีความโค้งมนมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปอาจเกิดอาการ "slouch" หรือหย่อนตัว แต่ยังคงให้ลุคที่ดูหรูหรา

3. Epsom – หนังที่ผ่านการอัดลายพิเศษ ทำให้มีความแข็งแรงและทนต่อรอยขีดข่วนได้ดีเยี่ยม พื้นผิวเรียบกว่าหนัง Togo และมีความเงาเล็กน้อย นิยมใช้ในกระเป๋ารุ่น Birkin, Kelly และ Constance

4. Box Calf – หนังลูกวัวแบบเรียบและมีความเงาเล็กน้อย ให้ลุคที่ดูคลาสสิกและหรูหรา แต่ต้องดูแลเป็นพิเศษเพราะเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย

5. Swift – หนังที่มีความเนียนและเรียบมากที่สุด ให้ความรู้สึกนุ่มมือและดูมันวาวขึ้นเมื่อใช้ไปนาน ๆ แต่มีความอ่อนโยนกว่าและเป็นรอยง่ายกว่าหนังชนิดอื่น

6. Evercolor – คล้ายกับ Epsom แต่มีความนิ่มกว่าเล็กน้อย ให้สัมผัสที่หรูหราและยังคงรูปทรงได้ดี

7. Chevre (Goatskin) – หนังแพะที่มีความเบาและทนทานสูง มีพื้นผิวเป็นลายธรรมชาติเล็กน้อย ไม่เสียรูปง่าย และมีความเงาอยู่ในตัว

8. Alligator / Crocodile – หนังสัตว์หายากที่ให้ความหรูหราสูงสุด มีทั้งแบบเงา (Shiny) และด้าน (Matte) ซึ่งสีดำจะให้ความรู้สึกที่ทรงพลังและดูหรูหราเหนือระดับ

เหตุผลที่สี Black ของ Hermès ได้รับความนิยม

✅ เป็นสีคลาสสิก ใช้ได้ตลอดกาล
✅ ดูหรูหราและเหมาะกับทุกโอกาส
✅ เข้าได้กับทุกสไตล์ ไม่ว่าลุคทางการหรือแคชชวล
✅ รักษามูลค่าได้ดี และมีโอกาสเพิ่มมูลค่าในตลาดแบรนด์เนมมือสอง

 

3. Etoupe and Etain

 

 

Etoupe และ Etain ยังคงเป็นสีที่ได้รับความนิยมในหมู่แฟนๆ สีเทา สีเทาจะช่วยยกระดับชุดต่าง ๆ ได้ตลอดทั้งวัน การเย็บตะเข็บสีขาวตัดกันของกระเป๋า Etoupe (สีเทาอมน้ำตาลกลางๆ ที่มีโทนสีอบอุ่นกว่า) ช่วยเปลี่ยนสีเทาให้กลายเป็นสีพิเศษ และจะเป็นหนึ่งในสีที่ได้รับความนิยมสูงสุดเสมอ Etain ก็ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน เป็นสีเทาเข้มด้านแบบคลาสสิกที่ถ่ายรูปออกมาได้สวย สีนี้ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองสีนี้มักจะขายดีกว่าสีอื่น ๆ ในตลาดแบรนด์เนมมือสองเสมอ

Etoupe เป็นหนึ่งใน สีที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ Hermès และถูกยกให้เป็นโทนสีที่ คลาสสิก เรียบหรู และเข้าได้กับทุกลุค สีนี้เป็นโทน เทา-น้ำตาลกลาง (Taupe Gray) ซึ่งให้ความรู้สึก Neutral & Elegant มีเอกลักษณ์ตรงที่ ขอบตะเข็บ (Contrast Stitching) สีขาว ที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวกระเป๋า ทำให้ Etoupe เป็นสีที่มีเสน่ห์แบบ Timeless และเหมาะกับการใช้งานในทุกวัน

 

 

ประเภทของหนังสี Etoupe ที่ได้รับความนิยมในกระเป๋า Hermès

1. Togo – หนังลูกวัวลายนูนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะมีน้ำหนักเบา ทนต่อรอยขีดข่วน และคงรูปได้ดี สี Etoupe ในหนัง Togo จะให้ลุคที่ดูนุ่มนวลและหรูหรา เหมาะกับกระเป๋ารุ่น Birkin, Kelly, และ Evelyne

2. Clemence – หนังลูกวัวที่มีความนิ่มและหย่อนตัวมากกว่า Togo สี Etoupe บน Clemence จะดูอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย ให้ลุคที่ดูชิลและเป็นธรรมชาติ กระเป๋าอาจจะเกิด Slouch Effect (ทรงหย่อน) เมื่อใช้งานไปนาน ๆ

3. Epsom – หนังอัดลายที่มีความแข็งและคงรูปได้ดี สี Etoupe ในหนัง Epsom จะให้ความรู้สึกที่ดูคมชัดและทันสมัยมากขึ้น เหมาะกับกระเป๋าทรงแข็ง เช่น Kelly Sellier และ Constance

4. Swift – หนังที่มีผิวเรียบและให้สัมผัสที่นุ่มนวล สี Etoupe ในหนัง Swift จะดูมีความเงาขึ้นเล็กน้อย และให้ลุคที่ดูหรูหรามากขึ้น แต่ต้องดูแลเป็นพิเศษเพราะเป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย

5. Chevre (Goatskin) – หนังแพะที่มีความเบาและทนทานสูง สี Etoupe บน Chevre จะมีความเงาเล็กน้อยและดูหรูหรากว่า Togo หรือ Clemence เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการกระเป๋าน้ำหนักเบาและดูพรีเมียม

6. Evercolor – หนังที่มีสัมผัสใกล้เคียงกับ Epsom แต่มีความนุ่มกว่า สี Etoupe ในหนัง Evercolor จะดูละมุนขึ้น และให้ความรู้สึกที่หรูหราแบบ understated

เหตุผลที่สี Etoupe ของ Hermès ได้รับความนิยม

✅ คลาสสิกและเหนือกาลเวลา – เป็นสีโทนกลางที่เข้าได้กับทุกแฟชั่นและทุกฤดูกาล
✅ เป็นสี Unisex – สามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ดูหรูหราและไม่หวานเกินไป
✅ Contrast Stitching ที่โดดเด่น – ขอบด้ายสีขาวทำให้สี Etoupe มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
✅ แมทช์กับเสื้อผ้าได้ง่าย – เป็นโทนสีที่เข้าได้กับทุกสี ไม่ว่าจะเป็นขาว ดำ น้ำตาล หรือพาสเทล
✅ มูลค่าการลงทุนสูง – เป็นหนึ่งในสีที่ ขายดี และมี ราคาขายต่อดีมาก ในตลาดแบรนด์เนมมือสอง

 

4. Craie และ Nata

 

 

Craie และ Nata เป็นสีออกขาว 2 สีที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก… Craie มีโทนสีเทามากกว่า และ Nata (สีประจำฤดูกาลใหม่จากปี 2019) มีโทนสีเหลืองอ่อน ๆ ทำให้ดูสว่างและครีมมี่มากขึ้น

“Nata” เป็นคำภาษาสเปนที่แปลว่าครีม ซึ่งก็สมเหตุสมผลเมื่อพิจารณาจากโทนสีเหลืองของสีทั้งสอง ความแตกต่างระหว่างสีทั้งสองนั้นเพียงเล็กน้อยมากจนผู้ชื่นชอบ Hermès ส่วนใหญ่คงจะต้องดีใจมากหากได้รับกระเป๋าทั้งสองสีนี้ ทั้งสองสีมีมูลค่าเท่ากันและมีราคาค่อนข้างสูงในตลาดซื้อขายแบรนด์เนมมือสอง

Craie และ Nata เป็นสองสีโทนอ่อนในตระกูลสีขาวของ Hermès ที่ได้รับความนิยมสูงมาก เนื่องจากให้ลุคที่ เรียบหรู ดูแพง และคลาสสิกเหนือกาลเวลา ทั้งสองสีมีความคล้ายคลึงกัน แต่มี อันเดอร์โทน (Undertone) และความสว่างที่แตกต่างกัน ซึ่งเหมาะกับสไตล์การใช้งานที่ต่างกันเล็กน้อย

Craie – สีขาวออฟไวท์ (Chalk White)

 

 

"Craie" เป็นภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า "ชอล์ก" ซึ่งสื่อถึงสีที่มีความขาวแบบ Neutral ที่ไม่ติดเหลืองหรืออมชมพูมากเกินไป Craie เป็นสีขาวที่มีอันเดอร์โทนเทาอ่อน ๆ ทำให้ดูสะอาดและโมเดิร์น ให้ลุคที่ดูเรียบง่ายแต่หรูหราแบบมินิมอล

ลักษณะของสี Craie
- โทนสี: ขาวออฟไวท์ที่มีอันเดอร์โทนเทาเล็กน้อย
- ลุคที่ได้: โมเดิร์น คลาสสิก เรียบหรู
- ความสามารถในการแมทช์: เข้าได้กับทุกชุด และเสริมลุคให้ดูแพงขึ้น
- ความคงทน: สี Craie อาจต้องการการดูแลมากกว่าสีเข้มเพราะสกปรกง่าย

ประเภทของหนังสี Craie ที่ได้รับความนิยม

• Togo: สี Craie ในหนัง Togo จะดูแมตต์และมีความนุ่มนวล
• Epsom: สี Craie ในหนัง Epsom จะให้ลุคที่คมชัดและเป็นทางการมากขึ้น
• Swift: สี Craie ในหนัง Swift จะดูเงาขึ้นเล็กน้อย ทำให้มีความหรูหรา
• Chevre: สี Craie บนหนังแพะจะให้ความเงางามและคงทน

Nata – สีขาวนวลครีม (Creamy Off-White)

 

"Nata" เป็นภาษาสเปนที่แปลว่า "ครีม" ซึ่งอธิบายถึงโทนสีของ Nata ได้อย่างชัดเจน Nata เป็นสีขาวที่มีอันเดอร์โทนอุ่นกว่าครึ่งโทนเมื่อเทียบกับ Craie ให้ลุคที่ดู นุ่มนวล หรูหรา และอบอุ่นกว่า

 

ลักษณะของสี Nata
- โทนสี: ขาวนวลที่มีอันเดอร์โทนครีมอ่อน ๆ
- ลุคที่ได้: อ่อนโยน หรูหรา อบอุ่น และมีความ Feminine
- ความสามารถในการแมทช์: เหมาะกับโทนสีเบจ ครีม น้ำตาล ทอง
- ความคงทน: Nata อาจพรางรอยเปื้อนได้ดีกว่า Craie เล็กน้อย เนื่องจากเป็นสีที่อุ่นกว่า

ประเภทของหนังสี Nata ที่ได้รับความนิยม

• Epsom: ทำให้สี Nata ดูคมชัดและหรูหรา เหมาะกับกระเป๋าทรงแข็ง เช่น Kelly Sellier
• Swift: ให้สัมผัสที่เนียนและเงางาม ทำให้สี Nata ดูหรูหราและแพงขึ้น
• Togo: ให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติและสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี
• Chevre: สี Nata ในหนังแพะจะมีความเงาและทนทานมากขึ้น

 

5. Rouge H

 

 

Rouge H – สีแดงเบอร์กันดีสุดคลาสสิก

"Rouge H" เป็นสีแดงเข้มที่มีอันเดอร์โทนน้ำตาลเล็กน้อย ซึ่งทำให้ดูสง่างามและมีมิติ ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป และสามารถเข้าได้กับหลายลุค สี Rouge H เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1925 และเป็นหนึ่งในสีแดงที่ ถูกสร้างขึ้นมาเป็นเฉพาะของแบรนด์ Hermès มีความเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและได้รับความนิยมมาโดยตลอด

โดยในยุคแรก ๆ ถูกใช้กับหนังม้าและเครื่องหนังต่าง ๆ ของแบรนด์ ต่อมาในช่วงยุค 1950s-1970s ก็ได้รับความนิยมอย่างมากจากกลุ่มลูกค้า High Society และนักสะสม โดยปัจจุบัน สีนี้เป็นสีแดงที่ขายดีและเป็นหนึ่งใน สีแดงสุดไอคอนิกของแบรนด์

ลักษณะของสี Rouge H
- โทนสี: แดงเบอร์กันดีที่มีอันเดอร์โทนน้ำตาล
- ลุคที่ได้: หรูหรา คลาสสิก วินเทจ และสง่างาม
- ความสามารถในการแมทช์: เข้าได้กับสีทอง เบจ น้ำตาล ดำ และครีม
- ความพิเศษ: เป็นสีที่อยู่กับ Hermès มานานหลายยุคสมัย และเป็นที่ต้องการสูงในหมู่นักสะสม

ประเภทของหนังที่มีสี Rouge H

 

สี Rouge H สามารถพบได้ในหนังหลายประเภท ซึ่งให้เอฟเฟกต์ที่แตกต่างกัน

• Togo – สีจะดูซอฟต์และคลาสสิก ด้วยเท็กซ์เจอร์ของหนังที่เป็นเม็ดเล็ก ๆ
• Epsom – สีจะดูเข้มขึ้นเล็กน้อยและให้ลุคที่ดูคมชัด หรูหรา
• Box Calf – สี Rouge H ในหนัง Box Calf จะดูเงางามและวินเทจ
• Swift – ให้สัมผัสที่นุ่มนวลและสีแดงจะดูเข้มข้นและลึกขึ้น
• Chevre (หนังแพะ) – ทำให้สี Rouge H ดูเงาและมีมิติหรูหรา

เหตุผลที่ Rouge H เป็นสีที่ควรค่าแก่การลงทุน

✅ เป็นสีแดงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Hermès – Rouge H มีความแตกต่างจากสีแดงทั่วไป เพราะมีอันเดอร์โทนน้ำตาลเล็กน้อย ทำให้ดูหรูหราแบบเหนือกาลเวลา
✅ มูลค่าการรีเซลสูง – สี Rouge H เป็นที่ต้องการสูงในตลาดมือสอง โดยเฉพาะในรุ่น Birkin และ Kelly
✅ เข้ากับทุกฤดูกาลและทุกสไตล์ – Rouge H สามารถใช้ได้ทั้งในโอกาสทางการและลุคแคชวล ทำให้เป็นสีแดงที่ไม่แรงจนเกินไป
✅ เหมาะกับฮาร์ดแวร์ทุกชนิด – Rouge H สามารถแมทช์ได้ทั้งฮาร์ดแวร์ทอง, โรสโกลด์ และพาลาเดียม

Hermès Kelly และ Hermès Birkin ไม่ได้เป็นเพียงแค่กระเป๋าหรูหราที่ใคร ๆ ต่างใฝ่ฝัน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของ ความสง่างาม ความหายาก และการลงทุนที่คุ้มค่า และเมื่อพูดถึง 5 สีที่ขายดีที่สุดตลอดกาล อย่าง Black, Gold, Etoupe, Craie/Nata และ Rouge H นั้น ล้วนเป็นเฉดสีที่ ไร้กาลเวลา แมตช์ง่าย และคงมูลค่าได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะถือในโอกาสไหน ก็สามารถเพิ่มเสน่ห์และบารมีให้กับเจ้าของได้เสมอ

หากคุณกำลังมองหา Hermès Kelly หรือ Birkin ในเฉดสีสุดไอคอนิกที่คุ้มค่ากับการลงทุน สีเหล่านี้คือคำตอบที่ดีที่สุด เพราะไม่เพียงแต่จะสวยหรูเหนือกาลเวลาเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวเลือกที่ได้รับการยอมรับจากนักสะสมและสายแฟชั่นทั่วโลก แล้วสีในฝันของคุณล่ะ คือสีไหน?