"We use cookies to make your experience better". "To offer a better browsing experience, the website uses technical, analytical, profiling and third party cookies. By selecting "Accept" you consent to the use of all cookies. If you would like to know more or opt out of all or some cookies select "Manage Cookies". Learn more
Chanel 101 ทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ Chanel Hardwear
Chanel 101 ทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ Chanel Hardwear หนึ่งในการผลิตอะไหล่อันน่าทึ่งที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลก และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ได้เติบโตและพัฒนาจนรวมเอาดีไซน์ที่สวยงาม หายาก และเป็นที่ต้องการมากที่สุดบางส่วนไว้ด้วย เช่นเดียวกับสีของผ้าของ Chanel ตามฤดูกาลและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในเรื่องของอะไหล่ Hardwear ก็เช่นกัน ซึ่งมันไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เท่านั้น แต่มันยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยืนยันในการตรวจสอบความเป็นของแท้อีกด้วย
หลายคนอาจมองข้ามความสำคัญของอะไหล่เหล่านี้ ที่ปรากฏอยู่โดยทั่วไปบนกระเป๋า Chanel ของคุณ ตั้งแต่วัสดุที่ Chanel ใช้ ไปจนถึงฮาร์ดแวร์ในกระเป๋าทุกใบ รายละเอียดทั้งหมดผ่านการคิดอย่างพิถีพิถันและสร้างสรรค์โดยช่างฝีมือที่มีชื่อเสียงที่สุดทั่วฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน เมื่อเวลาผ่านไป ชาแนลได้ทำให้ชิ้นส่วน Hardwear ที่งดงามที่สุดในโลกมีชีวิตขึ้นมา ซึ่งทำให้คอลเล็กชันของพวกเขาแตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ อย่างมาก SF Brandname จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Hardwear ต่าง ๆ ที่ปรากฏบนกระเป๋า Chanel
Lock It in with Iconic Chanel Hardware
หนึ่งในความสุขที่แท้จริง ระหว่างเลือกซื้อกระเป๋า นั่นก็คือการได้อยู่ท่ามกลางกระเป๋าหลากหลายรุ่น หลากหลายดีไซน์ ซึ่งมีการออกแบบที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงมีการเลือกใช้ Hardwear ที่ต่างกันออกไปในแต่ละรุ่น ตั้งแต่วัสดุของกระเป๋าไปจนถึงสีของกระเป๋าและตัวเลือกฮาร์ดแวร์ที่มีให้ จึงมีทางเลือกมากมายไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อช่วยคุณค้นหากระเป๋า Chanel ที่สมบูรณ์แบบ เราได้จัดประเภทและแสดงรายการฮาร์ดแวร์ประเภทต่าง ๆ ตั้งแต่ตัวล็อค CC อันเป็นเอกลักษณ์ไปจนถึงสายโซ่และฮาร์ดแวร์สีต่าง ๆ
ตัวล็อคแบบนี้ มีชื่อเรียกว่า Mademoiselle Lock ซึ่งจะปรากฏอยู่บนกระเป๋า Chanel รุ่น 2.55 อันถือได้ว่าเป็นกระเป๋ารุ่นแรก ที่ออกแบบโดย Coco Chanel ผู้ก่อตั้ง เพื่อปฏิวัติวงการกระเป๋าถือให้สั่นสะเทือน โดยเปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1955 อันเป็นที่มาของชื่อรุ่น 2.55 นั่นเอง โดยในช่วง 1920s กระเป๋าที่ชาแนลผลิตยังเป็นแบบฝาพับเดียวและยังไม่มีสายสะพาย และเพราะชาแนลเป็นคนสูบบุหรี่ เธอจึงคิดค้นกระเป๋าพร้อมสายสะพายเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับเธอ
แนวคิดนี้ปฏิวัติกระเป๋าถือ โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิง ในช่วงเวลาที่มักถือกระเป๋าด้วยมือ ทำให้ผู้หญิงมีทางเลือกในการเคลื่อนไหวร่างกายจากเดิมที่ค่อนข้างจำกัด นอกเหนือจากการออกแบบที่มีศิลปะและความเรียบง่ายของตัวล็อคแบบหมุนได้ ชื่อนี้มีความสำคัญเนื่องจากได้รับแรงบันดาลใจจากข้อเท็จจริงที่ว่า Coco Chanel ไม่เคยแต่งงาน ตัวล็อคแบบหมุนของ Mademoiselle ยังมีรูปลักษณ์ที่เรียบง่ายกว่าเมื่อเทียบกับตัวล็อคอื่นๆ แต่โซ่โลหะทั้งหมดทำให้กระเป๋าใบนี้มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นมาก
จากแรงบันดาลใจของกระเป๋ารุ่น 2.55 สู่อีกหนึ่งกระเป๋าในไลน์คลาสสิกซึ่งขึ้นแท่นความนิยมตลอดกาลและราคาที่พุ่งสูงขึ้นยิ่งกว่าตลาดหลักทรัพย์หรือทองคำ Chanel Classic Flap ผลงานการออกแบบของ Karl Lagerfeld (คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์) ซึ่งถูกสร้างสรรค์ขึ้นในช่วงทศวรรษ 1980 โดยแทนที่ระบบเทิร์นล็อค Mademoiselle ด้วยฮาร์ดแวร์ CC และเปลี่ยนสายโซ่โลหะทั้งหมดด้วยหนังที่ถักทอ (interwoven leather) และสายโซ่
ดีไซน์ของกระเป๋า ถูกออกแบบให้มีความทันสมัยมากขึ้น การปรับเปลี่ยนมาใช้รูปแบบของตัวล็อค CC ไขว้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ และเป็นการสร้างภาพจำและเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับแบรนด์ Chanel ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยมีจำหน่ายทั้งกระเป๋าแบบฝาพับเดียว (รุ่นวินเทจ ปัจจุบันเลิกผลิตแล้ว) และแบบสองพับ โดยมีชื่อเรียกที่เราคุ้นหูกันดีว่า "The Classic Flap" กระเป๋าฝาพับรุ่นคลาสสิก
The Boy Bag เป็นตัวเลือกที่แหวกแนวออกจากความคลาสสิกอย่างกระเป๋ารุ่นพี่อย่างรุ่น 2.55 หรือ Classic Flap เปิดตัวครั้งแรกในงานแฟชั่นโชว์ Fall/Winter Ready-To-Wear Collection ของ Chanel ในปี ค.ศ. 2011 ได้รับการตั้งชื่อตาม Boy Capel คนรักเก่าแก่ของ Coco Chanel โดยถูกผลิตออกมาหลายขนาด และหนึ่งในสิ่งที่โดดเด่นที่สุดในตัวของ The Boy Bag นี้คือ ตัวล็อคที่รูปร่างคล้ายกับตัวต่อเลโก้
แผ่นล็อคแบบกดล็อค CC ทรงสี่เหลี่ยมเป็นสัญลักษณ์และเพิ่มความโดดเด่นให้กับกระเป๋ารุ่นนี้ นอกจากนี้ สายโซ่ที่หนาขึ้นยังช่วยเสริมความ "พิเศษ" ให้กับกระเป๋า Boy เล็กน้อยตามที่เราทุกคนต้องการ ออกแบบโดย Karl Lagerfield ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกระเป๋าใส่กระสุนปืนของนักล่าสัตว์ และความเป็น “Boylish” ในตัวของโคโค ชาแนล
ลักษณะตัว CC ไขว้ ที่ถูกตกแต่งคล้ายกับสายโซ่ร้อยหนัง Interwoven leather ปรากฏอยู่บนกระเป๋า It Bag รุ่นใหม่อย่าง Chanel 19 ดยเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชั่น Fall/Winter 2019 เป็นผลงานที่หวนกลับไปสู่ประวัติศาสตร์อันโด่งดังของแฟชั่นเฮ้าส์แห่งนี้ นขณะเดียวกันก็ตั้งหน้าตั้งตารอสู่ยุคใหม่ สำหรับชื่อ “Chanel 19” นั้น ถูกตั้งขึ้น ตามปีที่เปิดตัวคือปี 2019 (และวันเกิดของ Coco Chanel ในวันที่ 19 สิงหาคม)
สายสะพายโลหะออกแบบให้มี 3 ลักษณะ (trio of chains) สอดด้วยเส้นหนัง ร้อยต่อเนื่องไล่ตั้งแต่ข้อต่อสีทองด้าน, รูธีเนียม (ruthenium) และสีเงิน ทำให้กระเป๋ารุ่นใหม่นี้ดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้นรวมถึงสัมผัสที่นุ่มนวลของผู้หญิงแสดงถึงความเป็นเฟมินีนได้อย่างชัดเจน
The chain strap
สายโซ่ สายสะพาย ที่พบในกระเป๋า Chanel ส่วนใหญ่มีข่าวลือว่าได้รับแรงบันดาลใจจากพวงกุญแจที่แม่ชีสวมใส่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ Coco เติบโตขึ้นมา บังเหียนม้า หรือสายรัดกระเป๋าของทหาร ไม่ว่าต้นกำเนิดของกระเป๋าจะเป็นอย่างไร โปรดทราบว่าสายโซ่ของ Chanel นั้นแตกต่างกันไปในแต่ละสไตล์กระเป๋าถือ เช่น 2.55 Reissue มีสายโซ่ล้วน ส่วน Classic Flap มีสายหนังพันกันอยู่ภายในสายโซ่ และ Boy Bag มีสายโซ่ที่หนากว่ามาก ซึ่งเข้ากันได้ดีกับกลิ่นอายของสายโซ่ที่ล้ำสมัยกว่า
สำหรับกระเป๋าที่มีการผสมผสาน 3 วัสดุเข้าไว้ด้วยกันอย่าง Chanel 19 จะถูกเรียกอะไหล่ชนิดนี้ว่า Mixed Metal Hardwear ฮาร์ดแวร์ของ Chanel 19 มีส่วนผสมของโลหะสีทอง สีเงิน และโลหะเคลือบรูทีเนียม สายสะพายยาวผสมผสานและเปลี่ยนโลหะชนิดต่างๆ เข้ากับหนังอย่างมีเอกลักษณ์และหรูหรา
Hardware Colours
ประเภทของอะไหล่บนกระเป๋า CHANEL ที่พบบ่อยที่สุดได้แก่ อะไหล่ทองมันเงา (shiny gold hardware) อะไหล่เงินมันเงา (shiny silver hardware) และรูทีเนียม (Ruthenium) โดยมีชื่อย่อที่คุ้นหูคุ้นตาเป็นอย่างดีคือ GHW, SHW และ RHW ตามลำดับ สำหรับกระเป๋าตามฤดูกาลบางรุ่น คุณอาจพบกับฮาร์ดแวร์สีทองหม่น, โบราณ (Antique), ปัดเงา (brushed), สีซีด (pale) หรือเคลือบด้าน (matte gold hard)
รวมถึงรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ ฮาร์ดแวร์สีเงินด้าน ฮาร์ดแวร์สีดำ ฮาร์ดแวร์สีรุ้ง ฮาร์ดแวร์ Plexiglass หรือวัสดุเคลือบ (Embellished hardware) ดังตัวอย่างต่อไปนี้
Shinny Gold : หนังสีดำ Classic Flap พร้อมฮาร์ดแวร์สีทองแวววาวเป็นการผสมผสานที่เหนือกาลเวลาซึ่งเป็นสิ่งที่นักสะสมหลายคนปรารถนา อะไหล่สีทองแวววาวเป็นแบบคลาสสิกที่ดูหรูหราและหรูหรา ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับหลาย ๆ คนที่กำลังพิจารณาซื้อกระเป๋า Chanel ใบแรก
หากคุณกำลังเลือกซื้อกระเป๋า Chanel Vintage ที่ถูกผลิตขึ้นก่อนปี ค.ศ. 2008 โปรดทราบว่า กระเป๋าวินเทจเหล่านั้นจะใช้อะไหล่ที่ผลิตจากฮาร์ดแวร์เคลือบทอง 24 กะรัต (24-karat gold) ทำให้มีโทนสีทองที่เข้มกว่าปกติ (คุณสามารถมองเห็นได้จากตราประทับที่ด้านบนซ้าย ขวาบน หรือขวาล่างของโลโก้ CC แบบเทิร์นล็อคเพื่อระบุว่าฮาร์ดแวร์ที่ใช้เคลือบทอง 24k)
อย่างไรก็ตาม Chanel เลิกผลิตกระเป๋าที่มีฮาร์ดแวร์ทอง 24k ตั้งแต่คอลเลกชัน Cruise 08/09 ส่งผลให้ฮาร์ดแวร์สีทองแวววาวบนกระเป๋าถือตั้งแต่ปลายปี 2008 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันมักเป็นสีทองแบบ typically gold-toned ไม่ว่ากระเป๋า Chanel จะมีส่วนประกอบที่เป็นทองคำจริงหรือไม่ก็ตาม กระเป๋า Chanel Classic Flaps ทั้งหมดยังคงรักษามูลค่าไว้อย่างดีไม่แพ้กัน กระเป๋า Chanel วินเทจในสภาพดี ถือว่าเป็นไอเท่มหายาก และด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่ต้องการอย่างมากในปัจจุบัน
- Brushed/Matte/Pale Gold : ฮาร์ดแวร์สีทองขัดเงาและเคลือบด้านมีความแวววาวที่นุ่มนวล ซึ่งให้ความรู้สึกแบบผู้หญิงมากขึ้น สีทองอ่อนยังเข้ากันได้ดีกับกระเป๋าสีอ่อนในสีพาสเทล หนังสีเมทัลลิกสีอ่อน และสีอ่อนกว่า เช่น กระเป๋าสีขาวและสีครีม สีทองอ่อนดูเหมือนสีแชมเปญ
- Antique Gold : สี Antique Gold หรือสีทองโบราณนี้ มักพบบนกระเป๋ารุ่น The Boy Bag คุณภาพเก่าแก่และวินเทจซึ่งแฟน ๆ ชาแนลหลายคนต่างชื่นชอบ ฮาร์ดแวร์ทองโบราณมักมีการเคลือบ ซึ่งมีลักษณะเป็นคราบเล็กน้อย (ฟิล์มสีเขียวบางๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติบนทองแดงและทองแดง) และโทนสีทองเหลืองกว่า
- Embellished : คุณจะพบกับอะไหล่ชนิดนี้ บนกระเป๋า Chanel รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นพร้อมฮาร์ดแวร์ประดับประดา เช่น อัญมณี ไข่มุก ทองคำลวดลายเป็นเส้น และอีนาเมลลายลูกโซ่ กระเป๋าที่ออกมาเป็น Seasonal ที่หายากและประณีตเหล่านี้ช่วยเสริมการตกแต่งให้กับสไตล์คลาสสิกของแบรนด์หรูสไตล์ฝรั่งเศส และเป็นผลงานของนักสะสมที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮาร์ดแวร์ CC สองชั้นที่ประดับด้วยมุกนั้นได้รับความนิยมอย่างมากในสไตล์ที่ดูเฟมินีนและเก๋ไก๋ นำเสนอลุคที่ล้ำหน้าทางแฟชั่นสำหรับผู้ชื่นชอบ Chanel เป็นอย่างมาก
- Shinny Silver : ฮาร์ดแวร์สีเงินที่ดูเท่ เรียบง่าย หรูหรา และแวววาวยังเป็นที่นิยมในหมู่นักสะสมอีกด้วย นอกจากนี้ ฮาร์ดแวร์สีเงินแวววาวมีแนวโน้มที่จะโดดเด่นและดูดีกว่าเมื่อจับคู่กับโทนสีอัญมณี ความสดใสที่โดดเด่น และวัสดุผ้าทวีดแบบคลาสสิก
สีเงินด้าน
- Ruthenium : วัสดุ Ruthenium จะมีลักษณะแบบด้าน เป็นสีเงินแวววาวและดูโมีความ Antique สำหรับอะไหล่ Ruthenium จะมีโทนคล้ายเขม่าดินปืน โดยมักพบเห็นได้ในกระเป๋ารุ่น Boy Bags เนื่องจากมีรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวกว่า ถือเป็นทางเลือกที่เรียบง่ายสำหรับใครที่ชอบความแตกต่างจากสีเงินแวววาวธรรมดา
- Black : ฮาร์ดแวร์สีดำของ Chanel มักมาในฮาร์ดแวร์โลหะสีดำมันเงาหรือฮาร์ดแวร์รูทีเนียมสีดำ ฮาร์ดแวร์สีดำสุดเก๋และเก๋ไก๋ทำให้กระเป๋า Chanel ทุกใบมีกลิ่นอายความโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น
- Iridescent : อะไหล่ชนิดนี้ เปิดตัวครั้งแรกในปี 2016 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์กระเป๋า Iridescent Boy ที่มาพร้อมกับหนังเมทัลลิกสีเข้ม อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่มีการเคลือบสีเหลือบรุ้งของ Chanel มีลักษณะสะท้อนแสงคล้ายกับเอฟเฟกต์สีรุ้งของคราบน้ำมัน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฮาร์ดแวร์สีเหลือบรุ้งก็ถูกนำมาใช้กับกระเป๋า Boy Bag สีเมทัลลิกและสีรุ้งบางสไตล์ หรือแม้แต่กระเป๋าแบบคลาสสิก แม้ว่ารูปแบบ Seasonal เหล่านี้จะพบได้ยากก็ตาม
- Plexiglass/Enamel : โลโก้ Chanel double CC สามารถฝังด้วยอีนาเมลหรือขึ้นรูปจากลูกแก้วทั้งหมดในโทนสี บล็อกสีด้วยกระเป๋าตามฤดูกาล ลูกแก้วหรือฮาร์ดแวร์เคลือบด้านเข้ากันได้ดีกับกระเป๋า Chanel สีสันสดใส ทำให้เกิดสุนทรียะแบบป๊อปอาร์ตด้วยดีไซน์ที่สนุกสนานยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีอะไหล่รุ่นพิเศษต่าง ๆ อีก ซึ่งส่วนมากจะเป็นรุ่น Seasonal ที่จะถูกผลิตออกมาตามฤดูกาล ไม่ใช่อะไหล่ในไลน์คลาสสิก และนี่คือตัวอย่างบางส่วน
เมื่อซื้อกระเป๋า Chanel ให้ใส่ใจกับฮาร์ดแวร์ของกระเป๋าถือเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นเครื่องหมายสำคัญของกระเป๋าของแท้ ฮาร์ดแวร์ที่เป็นโลหะควรให้ความรู้สึกหนักและมีราคาแพง โดยไม่มีการหลุดลอก เนื่องจากมีสีฮาร์ดแวร์และตัวเลือกมากมาย จึงอาจเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจว่าจะซื้อกระเป๋า Chanel รุ่นไหน แบบไหน แต่ไม่ว่าเหตุผลใดก็ตาม เราหวังว่าคำแนะนำของเราจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ หลังจากอ่านคำแนะนำของเราแล้ว คุณมีกระเป๋า Chanel ในดวงใจแล้วหรือยัง
อย่างไรก็ตาม มีโอกาสที่ฮาร์ดแวร์ของ Chanel อาจมีการเสื่อมสภาพไปได้ แม้จะเป็นของแท้ก็ตาม เนื่องจากการใช้งานและวิธีการเก็บรักษา รวมถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การสัมผัสกับอากาศในทะเลและความเป็นกรดของหนัง เพื่อลดปัญหานี้ อย่าลืมลงทุนซื้อผ้าขัดเครื่องประดับแบบมืออาชีพ เก็บกระเป๋าของคุณไว้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ชื้น แห้งและสะอาด
หรือให้ SF Brandname ได้บริการคุณ ด้วยบริการสปากระเป๋าแบบครบวงจร หรือสามารถรับคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีทำให้กระเป๋าถือของคุณมีอายุการใช้งานยาวนาน นอกจากนี้ ทาง SF Brandname ยังมีสินค้าแบรนด์เนมหลากหลายแบรนด์หลากสไตล์ ไว้คอยต้อนรับ ด้วยการรับประกันความเป็นของแท้ 100% พร้อมคุณภาพและการบริการที่เชื่อถือได้จากผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ พร้อมด้วยบริการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการซื้อขาย แลกเปลี่ยนจำนำ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมตามช่องทางดังต่อไปนี้
- Facebook : sfbrandname
- IG : sfbrandname
- Line : @sfbrandnamebkk